Skip to main content

สิ่งที่ควรมีและคำนึงถึงในการทำ online marketing ในยุคนี้




เทียบกับเมื่อก่อน สมัยนี้ อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปมากนะครับ สมัยก่อน ตามร้านกาแฟ เราอาจจะ เห็นคนนั่งเล่น Laptop กันเยอะมาก แต่สมัยนี้ ถูกแทนที่ด้วย Smart phone หรือ ไม่ก็พวก Tablet

นอกจากนั้น คนสมัยนี้ยังชอบที่จะ connect กับคนอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นผ่านทาง Social Media ต่างๆ อย่าง Facebook, Twitter หรือ Instagram ไรพวกนี้ เพราะคนสมัยนี้ชอบที่จะ interact กับคนอื่นๆ เช่น comment post คนอื่น หรือ share เรื่องต่างๆ ให้กับเพื่อนๆ เค้า หรือ post เรื่องที่ตนเองนั้นสนใจ หรือ มีประสบการณ์ตรง ซึ่ง มีทั้ง ประสบการณืที่ดี และ ก็ไม่ดี

แล้วก็สมัยนี้ Rich Media เข้าถึงได้ง่ายกว่าสมัยก่อนมาก เช่น การดู Video ตามเวปอย่าง YouTube เนื่องจาก ความเร็วของ internet ที่เพิ่มขึ้นและยังเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย สมัยก่อนต้องมานั่งหา HotSpot แถมไม่เร็วแบบนี้ด้วย หรือ บางคนลงทุนหน่อยก็ซื้อ Air Card มาใช้ แต่สมัยนี้ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและราคาไม่โหดมาก บางคนซื้อ Package 3G 4G เร็วๆหน่อย และปล่อยเป็น HotSpot ใช้ด้วยก็มี

จากที่พูดมาว่าโลกสมัยนี้ มันเปลี่ยนไปมาก การทำการตลาด สมัยนี้ มันก็ต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วย มีอะไรที่เราควรจะต้องคำนึงถึงกันบ้าง ลองมาดูกันครับ

- Website ของเรา อย่างที่บอกสมัยนี้ คนเราใช้ Device ที่หลากหลายขึ้น บางคนมีหมด Laptop, Tablet และ Smart Phone ดังนั้น เราต้อง Check website ของเราว่ามัน Responsive หรือเปล่า หมายความว่า Web เราจะต้องปรับเปลี่ยนการแสดงผล ตามขนาด Screen ของ Device แต่ละอย่าง

   นอกจากนั้น ควรทำให้ Web เรามันเป็น Mobile Friendly ให้มากที่สุด อย่างเช่น Web Page ไหนที่มีเบอร์โทรศัพท์ ก็ทำให้เบอร์นั้น มันเป็น Click to call ไปเลย พอ user กดที่ เบอร์โทร ก็สามารถโทรออกหาเราได้เลย

   อย่าลืมพวก Script ต่างๆ เช่น Java Script บางตัวก็ไม่ทำงานกับ Browser อย่าง Safari เพราะฉะนั้นให้ทำการ ทดสอบ Web ของเรากับหลายๆ Device หลายๆ OS ทั้ง Android แล้วก็ IOS


- Social Media ขาดไม่ได้เลยสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Fan Page, Twitter, IG เอาจริงๆ ค่อนข้างมีประโยชน์มาก อย่าง Facebook Fan Page นี่ เอาไว้ทำ CRM ก็ไม่เลวนะ คอย Update สินค้าหรือบริการ หรือเอาไว้ Post เหตุการณ์ หรือ พวก Tips ต่าง ที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเราก็ได้ นอกจากนั้นยังคอยเอาไว้ตอบคำถามลูกค้าทาง Facebook messenger ก็โอเค

แต่ แต่ แต่ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือต้องมั่นใจว่าจะมีคนคอย Update หรือ คอย Operate พวก Social Media ต่างๆ เหล่านี้ เพราะ ถ้าทำมาแล้วไม่มีคนคอยดูแล ก็เปล่าประโยชน์นะจ๊ะ


- ช่องทางการติดต่อที่สะดวก และ รวดเร็ว เพราะคนสมัยนี้ คาดหวังที่จะได้คำตอบที่รวดเร็ว ถามปุ๊บ ตอบปั๊บเลยยิ่งดี จะให้มานั่งรอแบบ 2-3 Business Days กูไป Web อื่นดีกว่า ดังนั้นลำพังจะหวังพึ่งแต่ Contact Form ก็เห็นจะไม่พอ มี Line Official, Line @ หรือ Facebook Messenger ก็โอเค หรือ บาง Web มี Live Chat เลยก็สะดวกดี


- YouTube หรือ Facebook Live อันนี้อาจจะต้องดูประเภทธุรกิจ เพราะธุรกิจบางประเภทก็ไม่จำเป็นต้องมี YouTube หรือทำ Facebook Live ก็ได้ แต่ธุรกิจบางอย่าง เช่น พวกสื่อ หรือ คนที่ทำรายการต่างๆ ก็ค่อนข้างจำเป็น เพราะเข้าถึงคนได้ง่าย ดีไม่ดี ง่ายกว่า ทีวี ด้วย เพราะ คนสมัยนี้ เล่น มือถือ Tablet มากกว่าดู ทีวี ซะอีก และการที่เรา Upload Video ของเราไว้บน YouTube และสร้าง YouTube Channel เป็นของตัวเอง ทำให้ คนสามารถดู Video ย้อนหลังได้ และถ้ามี จำนวน View สูงๆ ยังได้เงินจาก YouTube ด้วยนา


- Mobile Application อันนี้ก็อาจจะ ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจและงบประมาณที่มี แต่ธุรกิจที่เป็นพวก E-Commerce ถ้ามีได้ก็น่าจะดีนะครับ เพราะ มันช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อ หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น รับจองห้องพัก จองผ่าน App ก็ง่ายและสะดวกดี


ยังไงก็ลองเอาไปปรับใช้กับสิ่งที่เรามี หรืออะไรที่เรายังไม่มีก็ลองสร้างขึ้นมาใช้ดูนะครับ

Comments

Popular posts from this blog

Feedly - ตัวช่วยในการรวมบทความไว้อ่านในที่เดียว

ในการทำงานของบางสาขาอาชีพ อย่างเช่น งาน IT งาน Online Digital Marketing นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการ Update ความรู้ ข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ เพราะ เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แหล่งที่เอาไว้อ่านข้อมูล ข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับเรื่อง IT หรือ Online Marketing นั้นก็ไม่พ้นพวก Blog ต่างๆ และ ปกติ ก็มักจะไม่ได้อ่านจาก Blog แค่ Blog เดียว อย่างผมก็จะอ่านจาก หลายๆ Blog เพราะ แต่ละ Blog ก็จะมีจุดแข็ง หรือ ความเชี่ยวชาญไม่เหมือนกัน อย่างเรื่อง Online Marketing นั้น Blog นี้อาจจะถนัดเรื่อง SEO ในขณะที่ Blog นี้อาจจะเชี่ยวชาญเรื่อง Google Adwords หรือ Facebook Ads แต่จะเปิด Browser หลายๆ Tab แล้วเปิดอ่านทีละ Blog ก็ดูจะยุ่งยาก ไม่ค่อยสะดวก เสียเวลา ยิ่งอ่านจาก Mobile บางทีเสียอารมณ์ วันนี้มีตัวช่วยจะมาแนะนำ เป็นเวปไซต์หนึ่งชื่อว่า Feedly ซึ่งสามารถช่วยเรารวบรวม Blog ต่างๆ ที่เราสนใจเอาไว้ในที่เดียวผ่านทาง RSS Feed มาลองใช้กันเลยดีกว่า ขั้นแรกไปที่ https://feedly.com แล้วกดที่ GET STARTED FOR FREE เราสามารถเลือกที่จะ Login โดยใช้ Google Account, Feedly Account หรือ Facebook Account อย่า...

สร้าง Google Account ด้วย Email บริษัทไม่ใช้ Gmail

การที่จะใช้บริการต่างๆ ของ Google เช่น Google Drive, Google Doc, Google Spreadsheet, Google + หรือ จะ Add บริษัทเข้าไปที่ Google Map ผ่าน Google My Business จำเป็นที่เราจะต้องมี Google Account ซึ่งส่วนใหญ่คนก็จะใช้ Gmail  แต่บางคน รวมถึงผมด้วย ขี้เกียจที่จะไป Create new Gmail account ขึ้นมา แล้วไหนยังจะต้องมาคอยจำ Account ใหม่ที่สร้างขึ้นมาอีก ไหนๆ เราก็ใช้ Email บริษัททุกๆ วัน Username และ Password ก็จำได้ขึ้นใจ งั้นเรามาสร้าง Google Account จาก Email บริษัทที่เราใช้กันอยู่ ทุกๆ วันดีกว่า ขั้นแรก ไปที่  https:// accounts . google .com/SignUpWithoutG mail   จากนั้นก็กรอกข้อมูลต่างๆ โดยที่ช่อง Your Email Address ก็ให้ใส่ Email บริษัทที่คุณต้องการใช้ในการสร้าง Google  Account และ Password เราก็อาจจะใช้ Password ที่เราใช้กับ Email บริษัทที่เราใช้อยู่ก็ได้ จะได้ไม่ต้องจำ Password หลายอัน กรอกเสร็จแล้วก็กด Next step  ระบบอาจจะให้ ให้ทำการ Verify Account โดยทำได้ 2 วิธีคือให้ส่ง Code มาทาง SMS หรือ ให้ระบบของ Google โทรมาบอก Code ซึ่งเ...

สร้าง File PDF จากการรวมกันของหลายๆ File ด้วย Acrobat X Pro

บ่อยครั้งที่ลูกค้าของบริษัทต้อง ส่งหลักฐานต่างๆ online ผ่านเวปไซต์ของสถานทูต ซึ่งมีข้อจำกัดก็คือต้องส่งเป็น File PDF ห้าม Zip หรือ ทำการบีบอัดมา แล้วก็สามารถส่งได้ทีละ File แต่ส่วนใหญ่หลักฐานก็มีมากกว่า 1 อย่าง เช่น Passport ทะเบียนสมรส นู่น นี่ นั่น แล้วก็มากันเป็นคนละ File จะ Zip ก็ไม่ได้ จะส่งทีละอันก็ยุ่งยากซะ งั้นเรามารวม File พวกนี้ ให้เป็น File PDF แค่อันเดียว ดีกว่านะครับเพื่อความง่าย ขั้นแรก เปิดโปรแกรม Adobe Acrobat X Pro ขึ้นมาไม่มีก็ไปหาโหลดเอา หรือ ใครรวยหน่อยก็ซื้อเอานะครับ เสร็จแล้วให้ Click Menu Create ตรงมุมซ้ายบน แล้วเลือก Combine Files into a Single PDF เสร็จแล้วจะมีหน้าต่างเหมือน popup ขึ้นมาเลือก Add Files แต่ถ้าใคร Save File ที่ต้องการรวมไว้ใน Folder เดียวกันจะเลือก Add Folders ก็ได้นะครับ เสร็จแล้วก็เลือก File ที่จะมารวมกันเพื่อสร้างเป็น File PDF จะกด Ctrl ค้างแล้ว Click เฉพาะ File ที่ต้องการรวม หรือกด Shift แล้ว click File ที่ต้องการรวม หรือ Ctrl + A ก็แล้วแต่นะครับว่าเราต้องการจะรวม File ยังไง เมื่อเลือก File ที่ต้องการเสร็จแล้วก็กด Open ...