Skip to main content

ให้ลูกค้า หรือ เพื่อนร่วมงาน Upload ไฟล์มาที่ Dropbox โดยที่พวกเขาไม่ต้อง Sign in

สมัยนี้ ไฟล์ต่างๆ เริ่มมีขนาดใหญ่มากขึ้น อย่าง เช่น รูปสมัยนี้ที่ถ่ายด้วยกล้องมือถือก็มีความคมชัดค่อนข้างสูงทำให้ขนาดของไฟล์มีขนาดใหญ่ หรือ ไฟล์ วีดีโอ เดี๋ยวนี้ก็อัดมาแบบ HD บ่อยครั้งที่เราต้องการ ไฟล์เหล่านี้เพื่อนำมาใช้ในงานของเรา  เช่น  เราต้องการให้ลูกค้าส่งไฟล์ต่างๆ เช่น passport, รูปถ่าย หรือ บางครั้งขอ clip video เพื่อจะนำมาใช้ในการให้บริการของเรา  หรือ  ขอรูปต่างๆ จากเพื่อนร่วมงานเพื่อจะนำมาทำ Presentation

ปัญหาที่เจอบ่อยๆ คือ ไฟล์ มี ขนาดใหญ่ จนบางทีใหญ่เกินที่จะส่งมาทาง Email ทำให้บางทีต้องส่งมาเป็นหลายๆ Email จะให้ลูกค้าใช้พวก Cloud Storage แล้ว Share มาให้เรา ส่วนใหญ่ก็ทำไม่เป็นกัน อย่าว่าแต่ลูกค้าเลย เพื่อนร่วมงานเรายังทำไม่เป็นเลย

วิธีที่ผมคิดว่าง่าย และ ค่อนข้างสะดวกต่อทุกฝ่ายก็คือ Request File Upload ผ่านทาง Dropbox นี่แหละ เนื่องจากว่า ลูกค้าหรือเพื่อนรวมงานเราไม่จำเป้นต้องมี Account ของ Dropbox ก็สามารถ Upload ให้เราได้ แถมยังมี Email มาเตือนเมื่อเวลาลูกค้า Upload ไฟล์ ส่งมาถึงเราด้วย

วิธีการสามารถดูได้จาก video แล้วก็คำอธิบายข้างล่างนี้นะครับ


ขั้นแรกเข้าไปที่ www.dropbox.com แล้วก็ Sign in

จากนั้นผมก็จะสร้าง Folder ขึ้นมาสำหรับลูกค้าที่จะให้ upload ไฟล์เข้าไป เสร็จแล้วก็ click เมนู File requests ที่อยู่ด้านซ้ายมือนะครับ แล้วก็ใส่รายละเอียดเอกสารหรือไฟล์ต่างๆ ที่อยากให้ Upload  แล้วก็ click "Change Folder" เพื่อที่จะเลือก folder ที่เราได้สร้างไว้เพื่อที่จะให้ลูกค้า Upload ไฟล์เข้ามาที่ Folder นี้

นอกจากนั้นเราอาจจะ Set deadline ก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่ จากนั้น Click Next เสร็จแล้วระบบจะให้เราเลือกว่าจะ Copy link แล้วส่งให้ลูกค้าเราหรือว่าจะให้ระบบส่งให้ โดยเราต้องใส่ Email ของลูกค้าแล้วก็อาจจะใส่คำอธิบายด้วยก็ได้ เสร็จแล้วก็ click Send

เมื่อเรา Click Send แล้วลูกค้าเราก็จะได้รับ Email จาก Dropbox ซึ่งจะมีคำอธิบายและมีปุ่มให้กดเพื่อทำการ Upload ไฟล์ไปที่ Folder ที่เราสร้างไว้ ซึ่งดูแล้วค่อนข้างง่าย สามารถทำได้ง่ายๆ

เมื่อลูกค้าเรา Upload ไฟล์เข้าไปที่ Folder ที่เราสร้างไว้แล้ว เราก็จะได้รับ Email notification เราก็อาจจะ Download มาไว้ใน Computer ของเราก็ได้หรือจะเก็บไว้ใน Dropbox ก็ได้ แต่โดยปกติ Dropbox จะให้พื้นที่เรามา 2 GB นะครับ 








Comments

Popular posts from this blog

สร้าง Google Account ด้วย Email บริษัทไม่ใช้ Gmail

การที่จะใช้บริการต่างๆ ของ Google เช่น Google Drive, Google Doc, Google Spreadsheet, Google + หรือ จะ Add บริษัทเข้าไปที่ Google Map ผ่าน Google My Business จำเป็นที่เราจะต้องมี Google Account ซึ่งส่วนใหญ่คนก็จะใช้ Gmail  แต่บางคน รวมถึงผมด้วย ขี้เกียจที่จะไป Create new Gmail account ขึ้นมา แล้วไหนยังจะต้องมาคอยจำ Account ใหม่ที่สร้างขึ้นมาอีก ไหนๆ เราก็ใช้ Email บริษัททุกๆ วัน Username และ Password ก็จำได้ขึ้นใจ งั้นเรามาสร้าง Google Account จาก Email บริษัทที่เราใช้กันอยู่ ทุกๆ วันดีกว่า ขั้นแรก ไปที่  https:// accounts . google .com/SignUpWithoutG mail   จากนั้นก็กรอกข้อมูลต่างๆ โดยที่ช่อง Your Email Address ก็ให้ใส่ Email บริษัทที่คุณต้องการใช้ในการสร้าง Google  Account และ Password เราก็อาจจะใช้ Password ที่เราใช้กับ Email บริษัทที่เราใช้อยู่ก็ได้ จะได้ไม่ต้องจำ Password หลายอัน กรอกเสร็จแล้วก็กด Next step  ระบบอาจจะให้ ให้ทำการ Verify Account โดยทำได้ 2 วิธีคือให้ส่ง Code มาทาง SMS หรือ ให้ระบบของ Google โทรมาบอก Code ซึ่งเราก็ต้องใส่เบอร์โทรศัพท์

Google Backup and Sync ติดตั้งและใช้งาน

หลังจากที่ Google ประกาศว่า จะยกเลิกการ Support Google Drive App บน PC ในเดือน ธันวาคม โดยให้หันไปใช้ตัว Back Up and Sync แทน หรือ ในระดับองค์กรที่ใช้ G Suite ให้ไปใช้ Drive File Stream แทน วันนี้ก็เลย จะมาแนะนำการ Download และ ติดตั้งตัว Back Up and Sync ซึ่งจริงๆ มันก็คล้ายกับ App Google Drive ที่เคยใช้กันบน PC นี่แหละ 1. ไป Download Google Backup and Sync ที่ https://www.google.com/intl/en-GB_ALL/drive/download/   2.  จากนั้นเราจะได้ File installbackupandsync.exe ก็ให้ Double Click เพื่อทำการติดตั้ง และ เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วก็จะมี หน้าต่างนี้ขึ้นมา     ให้เรากด GET STARTED เพื่อไปขั้นตอนต่อไป  3. โปรแกรมจะให้เราใส่ Username และ Password ของ Account Google Drive ของเรา  4. ขั้นตอนต่อไปให้เราเลือก Folder ใน Computer ของเราที่จะเอาไว้เก็บ File และ Sync กับ Google Drive ของเรา ซึ่ง Folder นี้เราก็ควรจะสร้างเตรียมไว้ก่อน   5. เมื่อเลือก Folder แล้ว โปรแกรมก็จะทำการ Sync Google Drive กับ Computer ของเรา   เท่านี้ก็เป็นอันเรียบ

Feedly - ตัวช่วยในการรวมบทความไว้อ่านในที่เดียว

ในการทำงานของบางสาขาอาชีพ อย่างเช่น งาน IT งาน Online Digital Marketing นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการ Update ความรู้ ข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ เพราะ เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แหล่งที่เอาไว้อ่านข้อมูล ข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับเรื่อง IT หรือ Online Marketing นั้นก็ไม่พ้นพวก Blog ต่างๆ และ ปกติ ก็มักจะไม่ได้อ่านจาก Blog แค่ Blog เดียว อย่างผมก็จะอ่านจาก หลายๆ Blog เพราะ แต่ละ Blog ก็จะมีจุดแข็ง หรือ ความเชี่ยวชาญไม่เหมือนกัน อย่างเรื่อง Online Marketing นั้น Blog นี้อาจจะถนัดเรื่อง SEO ในขณะที่ Blog นี้อาจจะเชี่ยวชาญเรื่อง Google Adwords หรือ Facebook Ads แต่จะเปิด Browser หลายๆ Tab แล้วเปิดอ่านทีละ Blog ก็ดูจะยุ่งยาก ไม่ค่อยสะดวก เสียเวลา ยิ่งอ่านจาก Mobile บางทีเสียอารมณ์ วันนี้มีตัวช่วยจะมาแนะนำ เป็นเวปไซต์หนึ่งชื่อว่า Feedly ซึ่งสามารถช่วยเรารวบรวม Blog ต่างๆ ที่เราสนใจเอาไว้ในที่เดียวผ่านทาง RSS Feed มาลองใช้กันเลยดีกว่า ขั้นแรกไปที่ https://feedly.com แล้วกดที่ GET STARTED FOR FREE เราสามารถเลือกที่จะ Login โดยใช้ Google Account, Feedly Account หรือ Facebook Account อย่างของ