Skip to main content

ทำไมต้อง Facebook Workplace





และแล้ว Facebook ก็ได้ปล่อยตัว Workplace มาให้ใช้กันซะที ซึ่งค่อนข้างจะตอบโจทย์ Lifestyle การทำงานของคนในยุคนี้ ในยุคที่ องค์กรขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) หรือพวก Startups ผุดขึ้นมาเยอะมาก และ Trend ของ Co-Working Space หรือ Virtual Office กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ อีกหน่อย คนเราจะสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ที่มี Internet มาดูกันว่า ทำไมต้องใช้ Facebook Workplace และมี Feature อะไรที่น่าเล่น น่าสนใจกันบ้าง

1. Facebook Workplace จะช่วยทำให้ การสื่อสารระหว่างบุคลากรในองค์กร ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการสื่อสารแบบ สองทาง (Two Way Conversation)

    ต้องบอกว่าหมดยุคแล้วที่จะมีประชุมบริษัทประจำอาทิตย์ หรือ ประจำเดือน การที่จะแจ้งข่าวสารสำคัญต่างๆ เช่น มีการเปลี่ยนแปลงกฎหรือนโยบายบางอย่าง ให้แก่บุคลากรทุกๆคน ในองค์กรให้ทราบนั้น สามารถทำได้ โดยการ Post ลงใน News Feed ได้เลย ซึ่งพนักงานคนอื่นๆ ก็สามารถมาแสดงความคิดเห็น, React หรือ กด Like ได้

    นอกจากนั้นยังสามารถ Live Video ได้ด้วย จะมีประโยชน์มากในบางกรณี เช่น สาธิตการใช้อุปกรณ์สำนักงาน อย่าง เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น เพราะบางที่ต้องมีการใส่ Password เครื่องจึงจะทำงานได้

    และที่ขาดไม่ได้ก็คือ Chat นั่นเอง แต่ Feature นี้ก็คงไม่ได้ Wow เท่าไหร่ เพราะ หลายๆ คนคงใช้ LINE หรือ Facebook Messenger ในการสื่อสารภาบในองค์กรอยู่แล้ว

2. สร้างความมีส่วนร่วมแก่พนักงานต่อองค์กร อย่างเช่น อาจจะทำ Poll ว่างานปีใหม่ปีนี้ จัดที่ไหนดี หรือ อาจจะมีการ โพสท์ Article หรือ ข่าวสารต่างๆ ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับ พนักงานในองค์กร เช่น วิธีการเตรียมตัวดูบอลในช่วงบอลโลก

3. การแบ่ง Group โดยใน Facebook Workplace นั้นเราสามารถที่จะแบ่งกลุ่ม ซึ่ง อาจจะแบ่งเป็น แผนกๆ หรือ แบ่งเป็นสาขาๆ หรือ บางบริษัทมีบริษัทในเครือ ก็สามารถแบ่งเป็นบริษัทๆ ได้

4. การจัดการโดยมี Admin เป็นผู้รับผิดชอบซึ่งจะทำให้การใช้งาน Workplace มีประสิทธิภาพและอยู่ในร่องในรอย เช่น การ เพิ่ม พนักงานใหม่เข้าไป หรือ ลบ พนักงานที่ลาออกไปแล้ว เป็นต้น

5. มี Feature ในการแปลภาษา (Translation) ซึ่งเหมาะกับองค์กรที่มีพนักงานที่มาจากต่างประเทศ

เห็นแบบนี้แล้วก็น่านำไปลองใช้ในองค์กรโดยเฉพาะองค์การอย่าง SMEs หรือ Start Up ดูนะคับ



     

Comments

Popular posts from this blog

สร้าง Google Account ด้วย Email บริษัทไม่ใช้ Gmail

การที่จะใช้บริการต่างๆ ของ Google เช่น Google Drive, Google Doc, Google Spreadsheet, Google + หรือ จะ Add บริษัทเข้าไปที่ Google Map ผ่าน Google My Business จำเป็นที่เราจะต้องมี Google Account ซึ่งส่วนใหญ่คนก็จะใช้ Gmail  แต่บางคน รวมถึงผมด้วย ขี้เกียจที่จะไป Create new Gmail account ขึ้นมา แล้วไหนยังจะต้องมาคอยจำ Account ใหม่ที่สร้างขึ้นมาอีก ไหนๆ เราก็ใช้ Email บริษัททุกๆ วัน Username และ Password ก็จำได้ขึ้นใจ งั้นเรามาสร้าง Google Account จาก Email บริษัทที่เราใช้กันอยู่ ทุกๆ วันดีกว่า ขั้นแรก ไปที่  https:// accounts . google .com/SignUpWithoutG mail   จากนั้นก็กรอกข้อมูลต่างๆ โดยที่ช่อง Your Email Address ก็ให้ใส่ Email บริษัทที่คุณต้องการใช้ในการสร้าง Google  Account และ Password เราก็อาจจะใช้ Password ที่เราใช้กับ Email บริษัทที่เราใช้อยู่ก็ได้ จะได้ไม่ต้องจำ Password หลายอัน กรอกเสร็จแล้วก็กด Next step  ระบบอาจจะให้ ให้ทำการ Verify Account โดยทำได้ 2 วิธีคือให้ส่ง Code มาทาง SMS หรือ ให้ระบบของ Google โทรมาบอก Code ซึ่งเราก็ต้องใส่เบอร์โทรศัพท์

Google Backup and Sync ติดตั้งและใช้งาน

หลังจากที่ Google ประกาศว่า จะยกเลิกการ Support Google Drive App บน PC ในเดือน ธันวาคม โดยให้หันไปใช้ตัว Back Up and Sync แทน หรือ ในระดับองค์กรที่ใช้ G Suite ให้ไปใช้ Drive File Stream แทน วันนี้ก็เลย จะมาแนะนำการ Download และ ติดตั้งตัว Back Up and Sync ซึ่งจริงๆ มันก็คล้ายกับ App Google Drive ที่เคยใช้กันบน PC นี่แหละ 1. ไป Download Google Backup and Sync ที่ https://www.google.com/intl/en-GB_ALL/drive/download/   2.  จากนั้นเราจะได้ File installbackupandsync.exe ก็ให้ Double Click เพื่อทำการติดตั้ง และ เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วก็จะมี หน้าต่างนี้ขึ้นมา     ให้เรากด GET STARTED เพื่อไปขั้นตอนต่อไป  3. โปรแกรมจะให้เราใส่ Username และ Password ของ Account Google Drive ของเรา  4. ขั้นตอนต่อไปให้เราเลือก Folder ใน Computer ของเราที่จะเอาไว้เก็บ File และ Sync กับ Google Drive ของเรา ซึ่ง Folder นี้เราก็ควรจะสร้างเตรียมไว้ก่อน   5. เมื่อเลือก Folder แล้ว โปรแกรมก็จะทำการ Sync Google Drive กับ Computer ของเรา   เท่านี้ก็เป็นอันเรียบ

Feedly - ตัวช่วยในการรวมบทความไว้อ่านในที่เดียว

ในการทำงานของบางสาขาอาชีพ อย่างเช่น งาน IT งาน Online Digital Marketing นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการ Update ความรู้ ข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ เพราะ เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แหล่งที่เอาไว้อ่านข้อมูล ข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับเรื่อง IT หรือ Online Marketing นั้นก็ไม่พ้นพวก Blog ต่างๆ และ ปกติ ก็มักจะไม่ได้อ่านจาก Blog แค่ Blog เดียว อย่างผมก็จะอ่านจาก หลายๆ Blog เพราะ แต่ละ Blog ก็จะมีจุดแข็ง หรือ ความเชี่ยวชาญไม่เหมือนกัน อย่างเรื่อง Online Marketing นั้น Blog นี้อาจจะถนัดเรื่อง SEO ในขณะที่ Blog นี้อาจจะเชี่ยวชาญเรื่อง Google Adwords หรือ Facebook Ads แต่จะเปิด Browser หลายๆ Tab แล้วเปิดอ่านทีละ Blog ก็ดูจะยุ่งยาก ไม่ค่อยสะดวก เสียเวลา ยิ่งอ่านจาก Mobile บางทีเสียอารมณ์ วันนี้มีตัวช่วยจะมาแนะนำ เป็นเวปไซต์หนึ่งชื่อว่า Feedly ซึ่งสามารถช่วยเรารวบรวม Blog ต่างๆ ที่เราสนใจเอาไว้ในที่เดียวผ่านทาง RSS Feed มาลองใช้กันเลยดีกว่า ขั้นแรกไปที่ https://feedly.com แล้วกดที่ GET STARTED FOR FREE เราสามารถเลือกที่จะ Login โดยใช้ Google Account, Feedly Account หรือ Facebook Account อย่างของ